เปรตต้นตาล

 ผมเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ดแต่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 ก.ม. เรื่องที่ผมประสบนั้นผมยังขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และภาพยังติดตาติดสมองผมเรื่อยมา...ผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่ไม่ค่อยเชื่อ เรื่องอย่างนี้ซักเท่าไหร่...แต่พอมาประสบกับตัวเองแล้ว...ผมถึงกับเชื่อ อย่างฝังใจเสมอมา ในสมัยเด็กๆนั้นผมมีเพื่อนสนิทอยู่สองคน...พวกเราจะปั่นจักรยานกันไปเป็น กลุ่ม...มีผม ไอ้ตั๊ก และไอ้โจ....พวกผม3คนชอบเล่นดื้อซนตามธรรมชาติของเด็กๆ...เวลาที่เรารวมกลุ่มกันนั่น
คือเราจะออกไปยิงกิ้งก่ายิงนกโดยมีหนังกะติ๊กและลูกหินใส่ย่ามไปด้วย....ไอ้โจมันมีความคิดพิเรน
ชวนผมและไอ้ตั๊กไปยิงค้างคาวที่ต้นตาลในวัด...ซึ่งผมก็ตอบตกลงไปเสียโดยดี ซึ่งค้างคาวมันจะเกาะกันเป็นกลุ่มในตอนกลางวัน...ผมและเพื่อนยิงแต่มันก็ไม่ ร่วง...จึงวางแผนกันใหม่โดยเอาหม้อแบตอรี่มาส่องตอนค่ำประมาณ 3 ทุ่มเห็นจะได้...ที่บ้านนอกถึงแม้เวลาจะแค่สามทุ่มแต่ทุกบ้านปิดประตูกันหมด...ปิดไฟกัน หมดมันจึงมืดมาก พอพวกเรามาถึงต้นตาลในวัดจึงจดแจงเปิดไฟแบตตอรี่ (ผมขออธิบายนิดนึงแบตตอรี่แบบเป็แบบสพายมีหลอดติดกับสายรัดหัว) พอเราเงยหน้าขึ้นไปพร้อมแสงไฟสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพื่อนผมร้องเสียงหลง...แต่ผมพูดไม่ออก และขากก็ก้าวไม่ออกมันชาขึ้นมาทันที ปัสสาวะราดโดยไม่รู้สึกตัว ภาพที่ผมเห็นคือ เค้ากอดต้นตาลอยู่ข้างบนครับ ตาของเค้าสีแดงก่ำขนาดเท่าไข่ห่าน ปากเป็นรูเล็กมาก มือและเท้าใหญ่เท่าใบลาน...เค้ามองลงมาหาพวกผม........ด้วยสายตาน่า กลัว...................ผมตั้งสติได้จึงวิ่งตามเพื่อนไปโดยไม่มีใครสนใจ รองเท้าและจักรยานเลย.....................................ผมและเพื่อนจับไข้อยู่ 2 วัน พวกเราไม่ไปเล่นที่นั่นอีกเลย....ถึงวันนี้ผมคิดว่าถ้าเค้าไม่ไปผุดไปเกิดแล้วก็คงเกาะอยู่ที่ต้นตาลต้น นั้น ต้นที่ผมจะไม่ลืมตลอดชีวิต เรื่องของผมอาจจะไม่น่ากลัว แต่ผมว่าใครที่โดนแบบผมก็คงจะกลัวแน่นอน

ผีมาทวงของคืน

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องที่กำลังจะเล่านี้ เป็นเรื่องจริง 100% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องสาวแท้ๆของเราเอง คือว่า เมื่อเดือนมกราที่ผ่านมาน่ะ น้องเราแต่งงาน.. และเพื่อนเจ้าบ่าวก้อซื้อสร้อยคอชาวเขามาให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน น้องเราเล่าว่าตอนที่แกะของขวัญออกมาน่ะ ก้อยังไม่มีอะไร เพียงแต่ว่าพอคืนวันรุ่งขึ้น น้องเล่าว่าได้กลิ่นเหมือนอะไรเน่าๆ แต่น้องเราก้อคิดว่ากลิ่นดอกไม้ที่นำกลับมาจากโรงแรม ก้อเลยให้แฟนนำดอกไม้ไปทิ้ง แล้วน้องเราบอกว่าไม่รู้นึกยังงัยนะ เวลาหยิบสร้อยเส้นนั้นมาดู จะรู้สึกใจหดหู่ชอบกล และไม่รู้ว่าเหมื่อนอะไรมาดลใจนะ น้องเราดันเอาสร้อยเส้นนั้นไปแขวนไว้ที่ต้นโมก ซึ่งปลูกใส่ในกระถางหน้าบ้าน หลังจากนั้นสองวันน้องเราก้อไปฮันนีมูนกับแฟนเค้าที่ต่างจังหวัด ซึ่งตอนที่ไปฮันนีมูนน่ะ น้องเราบอกว่าไม่มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้น แต่พอน้องเรากลับมาถึงบ้านนะ เค้าตกใจมากๆเลยที่ต้นโมกที่นำสร้อยไปแขวนน่ะ ตกน้ำมันเลย และใบโมกก้อแห้งกรอบ หงิกๆแบบใบมะกรูดแห้งๆด้วย และคืนวันที่น้องเรากลับมาจากฮันนีมูนนะ อยู่ๆเค้าก้อปวดท้องมากๆเลย แฟนเลยพาไปหาหมอกลางดึกนั้นเลย จึงตรวจพบเนื้องอกที่มดลูกขนาด 12 เซน น้องเรางงมากๆว่าเกิดขึ้นได้ยังงัยเพราะก่อนแต่งงานน้องเรากับแฟนเค้าก้อไป ตรวงเช็คร่างกายด้วยกันทั้งคู่ และปกติดีทั้งคู่ น้องเราเล่าว่าตอนนั้นน้องเราก้อยังไม่เอ๊ะใจอะไร แต่ต้องมาตกใจและกลัวสุดๆก้อคือ พอแม่แฟนมาเยี่ยมที่บ้านน่ะ อยู่แกก้อถามว่าไปเอาสร้อยชาวเขามาจากไหน แกเล่าว่าก่อนที่จะมาเยี่ยมน้องสาวเราน่ะ แกฝันว่ามีผู้หญิงชาวเขามายืนร้องไห้หน้าบ้านที่น้องเราอยู่ แม่แกเลยถามว่ามาหาใคร ผู้หญิงคนนั้นบอกว่ามาทวงสร้อยคืน ทำมัยต้องเอาของเค้ามาด้วย เพื่อนๆเชื่อมั๊ยขนาดเราแค่ฟังจากน้องเรานะ เรายังขนลุกเลย ส่วนน้องเราน่ะ ไม่ต้องพูดถึงกลัวจนจะบ้าตายเลยแหละ น้องเราก้อเลยทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าของเค้า และนำสร้อยเส้นนั้นไปคืนเพื่อนที่ให้มา ตอนนี้น้องเราผ่าตัดเนื้องอกเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่แข็งแรงและฟื้นตัวเร็ว แต่น้องเราก้อยังกลัวผีอยู่เหมือนเดิม เราเองเราก้อกลัวเหมือนกัน ตอนกลางคืนทีไรเรานอนผวาทุกที ใครที่บอกว่าผีไม่มีจริงน่ะ เราขอเถียงหัวชนฝาเลยล่ะ เพราะเราเชื่อว่าผีมีจริงในโลก.


<<<ก่อนหน้า  
                                                                                                          
  


Free Web Hosting